จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

26 ตุลาคม 2554

ข้อสอบ ภาษาไทย ป.5

คำสั่ง ให้กากบาทตัวอักษรหน้าคำตอบที่ถูกต้อง


1. ก. คุณธรรม  อ่านว่า  คุน ทำ
   ขเทพยดา  อ่านว่า  เทบ ยะ -ดา
   รามเกียรติ์   อ่านว่า  ราม มะ -เกียน
   พระราชนิพนธ์  อ่านว่า พระ ราด นิ - พน
๒. เทวดา  อ่านว่า  เทว วะ -ดา
   มนุษย์   อ่านว่า  มะ -นุด
   ค. คุณภาพ  อ่านว่า  คุณ - พาบ
   งจระเข้  อ่านว่า  จระ -เข้
๓. อุตสาหกรรม  อ่านว่า  อุด สา -กำ
   จักจั่น  อ่านว่า  จัก - จั่น
   กลวิธี  อ่านว่า  กน วิ -ที
   อุปสรรค  อ่านว่า  อุบ ปะ สัก
ข้อ ๔ ๕  ข้อใดมีความหมายต่างจากพวก
๔. เทพี                           
   ขเทพ
   เทวา                           
   งเทพไท
๕. . โสมนัส                    

   ขปรีดา
   ยินดี                            
   งโศกเศร้า
ข้อใดเขียนผิด
   ก. ขะมักขะเม้น
   ข. ขะยุกขะยิก
   ค. ยุมุกขะมอม
        ง.   ขะมอมขะแมม
คำในข้อใดออกเสียง อะ กึ่งเสียง
       ก.  ธุระ         
       ข.  กระวัติ

       ค.  กรุณา      
       ง.   สระน้ำ
ข้อ ๘ ๙  ข้อใดไม่ออกเสียง  ออ
๘.  ก.  กรณี
      ข.  ปรกติ
      ค.  อรชร
      ง.  อรทัย

.  ปกติ
      ขปรปักษ์
      คอรหันต์
      งบริจาค
๑๐.  “คุณพ่อซื้อบ้านใหม่”  ขอใดเป็นกริยา
      ก.  ซื้อ                               
      ข.  บ้าน
      ค.  ใหม่                            
      ง.  คุณพ่อ
๑๑จากข้อ ๑๐ ข้อใดเป็นส่วนขยาย
       ก.  พ่อ                             
       ข.  บ้าน
       ค.  ซื้อ                              
       ง.  ใหม่
๑๒.  “ลูกหมาน่ารักของเธอวิ่งไปแล้ว”  ขีดเส้นใต้ขยายส่วนใดของประโยค
       ก.    ประธาน              
       ข.  กรรม
       ค.  กริยา                      
       ง.  ส่วนขยาย
๑๓.  จากข้อ  ๑๒  ข้อใดเป็นส่วนขยายกริยา
       ก.  ลูกหมา                       
       ข.  วิ่ง
       ค.  ของเธอ                      
       ง.  ไปแล้ว
๑๔. ข้อใดมีส่วนขยายประธาน และกริยา
 ก.  นกเขาขันเพราะมาก
 ข.  มะม่วงเขียวเสวยผลนี้อร่อย
 ค.   คุณพ่อกำลังรับประทานอาหาร
 ง.  สุนัขสีดำถูกรถชนตายเมื่อเช้านี้
ให้นักเรียนอ่านประโยคที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามข้อ  ๑๕ ๑๘  
พรุ่งนี้เราจะไปน้ำตกสาลิกา
๑๕ข้อใดเป็นกริยา
      ก. น้ำตก                           
      ข. จะไป
      ค. สาลิกา                         
      ง. พรุ่งนี้
๑๖ข้อใดเป็นคำขยายกริยา
      ก.  น้ำตก                          
      ข.  สาลิกา
      ค.  พรุ่งนี้                         
      ง.  จะไป
๑๗.  “น้ำตก”  ทำหน้าที่ใดของประโยค
      ก.  ประธาน                    
      ข.  กรรม
      ค.  กริยา                           
      ง.  ส่วนขยาย
๑๘ข้อใดขยายกรรม
      ก.  ไป                               
      ข.  พรุ่งนี้
      ค.  น้ำตก                          
      ง.  สาลิกา
ให้นักเรียนนำอักษรหน้าคำลักษณนามเติมในข้อ ๑๙ ๒๖
          กกิ่ง                     หลัง
          ขแผ่น                  ซบท
          ค.  ซี่                       แก่ง
          เม็ด                    ญหัว
          เรือน
๑๙. นาฬิกา  ๑……………….
๒๐. ข้าวเกรียบ  ๓…………………..

๒๑. พลอย  ๒……………..

๒๒. งาช้าง  ๑…………..
๒๓. ฟัน  ๑๐ ………………….
๒๔. เผือก  ๔………………
๒๕. บ้าน  ๓………………
๒๖. กลอน  ๑……………..
๒๗.ข้อใดจัดลำดับ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ  พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ ตามพจนานุกรมได้ถูกต้อง
ก.        จันทร์ อังคาร  พุธ  พฤหัสบดี ศุกร์  เสาร์  อาทิตย์
ข.        อาทิตย์   อังคาร  จันทร์  พุธ  พฤหัสบดี ศุกร์  เสาร์
ค.        จันทร์  พฤหัสบดี พุธ เสาร์  ศุกร์  อาทิตย์  อังคาร
ง.        จันทร์  พฤหัสบดี  พุธ  ศุกร์  เสาร์  อังคาร  อาทิตย์
๒๘จะพบคำใดก่อนในพจนานุกรม
ก.        แกน                      
ข.  แก่น
ค.  แก้น                         
ง.  แก็น
๒๙การเขียนรายงานมีความมุ่งหมายสำคัญคืออะไร
      ก.  เพื่อบันทึกข้อมูลไว้ช่วยความจำ
ข.  เขียนเสนอผลงานที่ได้กระทำมาตลอดปี
ค.  เขียนเสนอผลการศึกษาต่อผู้ฟัง  ผู้อ่าน เพื่อเผยแพร่
ง.   เขียนเพื่อบันทึกเหตุการณ์ประจำวันอย่างต่อเนื่อง
๓๐. จะพบคำใดก่อนในพจนานุกรม
ก. ปัง                        
ข. ปัก
ค. ปัด                          
ง. ปับ
๓๑.ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการเขียนรายงาน
ก.  รายงานจากการอ่านหนังสือ
ข.  รายงานจากการจินตนาการ
ค.  รายงานจากการศึกษาค้นคว้า
ง.   รายงานจากการฟังวิทยุโทรทัศน์
๓๒.คำถามใด ไม่จำเป็นในการจับใจความสำคัญของเรื่อง
ก.  ใคร
ข.  ทำอะไร
ค.  เท่าใด
ง.   ที่ไหน
๓๓.หลังจากอ่านจับใจความสำคัญแล้วควรทำอย่างไรต่อไป
ก.  เขียนข้อความตามต้องการ
ข.   รีบเขียนเรื่องให้เสร็จ
ค.  คัดลอกข้อความสำคัญของเรื่อง
ง.   เขียนสรุปใจความสำคัญด้วยสำนวนภาษาของตนเอง
๓๔.ข้อใด เป็นประโยชน์ที่ได้รับจากการเขียนแผนภาพโครงเรื่อง
ก.  ทำให้เรื่องมีรายละเอียดมากขึ้น
ข.  จับใจความสำคัญของเรื่องได้
ค.  สามารถแสดงความคิดเห็นได้
ง.   ทำให้เนื้อเรื่องมีความสมบูรณ์
๓๕.ข้อใด ไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการแต่งเรื่อง “ราชาธิราช
ก.    เป็นหนังสือที่เป็นสมบัติของพระนคร
ข.    ให้เป็นหนังสือที่เป็นคติสอนใจประชาชน
ค.    เป็นหนังสือบำรุงสติปัญญาของประชาชน
ง.     เป็นหนังสือแสดงเกียรติยศและความสามารถของผู้แต่ง
๓๖. เรื่อง ราชาธิราช”  ได้โครงเรื่องมาจากวรรณคดีของชาติใด
ก.    พม่า
ข.    มอญ
ค.    เขมร
ง.     อินเดีย
๓๗.  “พงศาวดาร”   หมายความว่าอย่างไร
ก.    เรื่องราวของบรรพบุรุษของประเทศ
ข.    เรื่องราวของผู้สบเชื้อสายเหล่ากอสกุลวงศ์
ค.    เรื่องราวของพระมหากษัตริย์   ผู้เป็นประมุขของประเทศ
ง.     เรื่องราวความเป็นไปของประชาชนและประเทศชาติ
๓๘.  คติตรงกับข้อใด
ก.    วิธีการ
ข.    นิทาน
ค.    เรื่องราว
ง.     แบบอย่าง
๓๙เพราะเหตุใดเรื่องราชาธิราชจึงได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสร
ก.    เป็นวรรณคดีร้อยแก้วที่ใช้ภาษาไทยแท้
ข.    เป็นวรรณคดีร้อยแก้วที่มีสำนวนโวหารไพเราะ เข้าใจง่าย
ค.    เป็นวรรณคดีร้อยแก้วที่มีสำนวนโวหารไพเราะให้คติและข้อคิดสอนใจ
ง.     เป็นวรรณคดีร้อยแก้วที่มีสำนวนโวหารไพเราะให้คติและอคิดสอนใจเนื้อเรื่องสนุกสนาน
๔๐.  “ประจิมทิศ”   คือทิศอะไร
ก.   ใต้
ข.   เหนือ
ค.   ตะวันตก
ง.    ตะวันออก
๔๑ข้อใด   ไม่ใช่ ชื่อตัวละครในเรื่องราชาธิราช ตอน กำเนิดมะกะโท ถึงมะกะโทเป็นขุนวัง
ก.  มะกะโท
ข.   นางอุ่นเรือน
ค.   พระเจ้าฟ้ารั่ว
ง.    สมเด็จพระร่วงเจ้า
๔๒.  “เบี้ย”  หมายถึงข้อใด
ก.  เงิน
ก.   เพชร
ค.   ทองคำ
ง.    ทองแดง
๔๓.  “สลา”  หมายถึงข้อใด
ก.   ข้าว
ข.   หญ้า
ค.   หมาก
ง.    น้ำลาย
๔๔.  “ทดหญ้า”  หมายถึงข้อใด
ก.   วางหญ้า
ข.   ตัดหญ้า
ค.   ตากหญ้า
ง.    ปลูกหญ้า
๔๕.  “เขาทำงานอะไรถึงได้ร่ำรวยยังงี้”  คำใดเป็นภาษาพูด
ก.   เขา
ข.   อะไร
ค.   ยังงี้
ง.    ร่ำรวย
๔๖ข้อใดคือสันธานของประโยคเป็นเหตุเป็นผลกัน
ก.   และ
ข.   แต่
ค.   ถึงแม้ว่า
ง.    เพราะฉะนั้น
๔๗การเขียนแผนภาพโครงเรื่องมีประโยชน์อย่างไร
ก.   สรุปข้อคิดที่ได้จากเรื่อง
ข.   ประหยัดเวลาในการเขียน
ค.   เขียนเรื่องได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ง.    เป็นแนวทางในการเขียนเรื่อง
๔๘ข้อใด  ไม่ใช่  การเขียนโครงเรื่อง
ก.  กำหนดหัวข้อเป็นแผนภาพโครงเรื่อง
ข.  เขียนรายละเอียดคร่าว ๆ  ของแต่ละหัวข้อ
ค.  หาความรู้เกี่ยวกับหัวข้อจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ
ง.   เขียนรายละเอียดของหัวข้อให้มากที่สุดในแผนภาพโครงเรื่อง
๔๙ข้อใด  ไม่ใช่ วิธีการเขียนย่อความ
      ก.   อ่านเรื่องคร่าว ๆ  ก่อน
      ข.   อ่านบททวนอีกครั้งเพื่อแก้ไข
      ค.   นำข้อความเดิมมาตัดให้สั้นลง
      ง.    บันทึกใจความสำคัญด้วยสำนวนของตนเอง
๕๐.   ข้อใดเป็นขั้นตอนการย่อความ
1.  การจับใจความสำคัญ
2.  เขียนต่อด้วยสำนวนตนเอง
3.  การอ่านเรื่องที่ย่อให้เข้าใจ
4.  เขียนคำขึ้นต้นตามรูปแบบ
ก.     ๑  ๒  ๓  ๔        ข. ๒  ๑  ๓  ๔
ค.    ๓  ๑  ๔  ๒        ง.  ๓  ๑  ๒  ๔
๕๑ข้อใดเป็นหลักการในการพูดแสดงความคิดเห็น
ก.  พูดตรงไปตรงมา
ข.  พูดอย่างมีเหตุผล
ค.  พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
ง.   พูดด้วยถ้อยคำสุภาพ นุ่มนวล
๕๒ข้อใดเป็นหลักการในการเขียนแสดงความคิดเห็น
ก.   ไม่มีอคติ
ข.  เขียนรายละเอียดมาก ๆ 
ค.  เขียนด้วยความคิดสร้างสรรค์
ง.   ใช้ภาษาสละสลวย  ชวนอ่าน
๕๓.   ข้อใดคือสรรพนามที่ใช้ในการย่อความ
         ฉัน   ผม
         .  เธอ   คุณ
         .  เขา  มัน
         พวกฉัน   คณะเรา
๕๔ข้อใดมีคำสันธานเชื่อมประโยคที่มีเนื้อความเป็นเหตุผลกัน
ก.  ฉันและพี่สาวชอบว่ายน้ำเหมือนกัน
ข.  ถึงเธอจะชอบอ่านหนังสือแต่เธอก็ไม่มีเวลาอ่าน
ค.  คุณน้าชอบไปเที่ยวป่าหรือชอบไปทะเล
ง.   เพราะฝนตกหนักมากน้ำจึงท่วมหมู่บ้าน
๕๕.  “…….เธอได้คะแนนตั้ง  ๘๐  คะแนนเชียวนะ”   ควรเติมคำข้อใดในที่                                
        ว่างของประโยคจึงจะได้ใจความสมบูรณ์
ก.  เอ๊ะ !                                    
โอโฮ !
ค.  โธ่เอ๋ย !                               
อุ๊ยตาย  !
๕๖.  “กว่าถั่วจะสุก  งาก็ไหม้”  คำที่ขีดเส้นใต้เป็นสันธานประเภทใด
      ก.  เชื่อมประโยคที่มีเนื้อความคล้อยตามกัน
      ข.  เชื่อมประโยคที่มีเนื้อความขัดแย้งกัน
      ค.  เชื่อมประโยคที่มีเนื้อความเป็นเหตุผลกัน
      ง.  เชื่อมประโยคที่มีเนื้อความเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
๕๗ข้อใด  ไม่ใช่ คำอุทาน
      กเป็ดไก่ !   พวกนี้มาจากไหน
      .  ไชโย สอบเสร็จแล้ว
      โถ !   ทำไมผอมอย่างนี้
      เอ๊ะ !   ใครหยิบหนังสือไป
๕๘ข้อใด ไม่มี คำอุทาน
      โอ๊ย !   ปวดหัวจัง
      ว้าย ประตูเปิดไม่ออก
      อยู่ดีดี !   ก็ตะโกนเสียงดัง
      .   อนิจจา !   กรรมเวรของเด็ก ๆ
๕๙ข้อใดมีสันธานเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
      ก.  เมื่อไฟดับเขาก็รับเข้านอน
      ข.  ฉันไม่ชอบผลไม้รสเปรี้ยวแต่ก็ต้องกินบ้าง
      ค.  เพราะเขาตั้งใจอดออมเขาจึงมีฐานะดีขึ้น
      ง.  เธอต้องไปตลาดหรือไม่ก็ต้องซักผ้า
๖๐.  หลวงปู่แดง (ป่วย)มาหลายวัน คำในวงเล็บควรใช้คำสุภาพใด
ก.  ประชวร
ข.  ไม่สบาย
ค.  อาพาธ
ง.   มีไข้


By: Rinlaporn Airsan

ข้อสอบ สุขศึกษาและพลศึกษา ป.5 (ชุดที่ 1)

คำสั่ง ให้กากบาทตัวอักษรหน้าคำตอบที่ถูกต้อง


1.นักเรียนสังเกตบ้างไหมว่า เราใช้สบู่สำหรับทำอะไร
  ก.ใช้แปรงฟัน
  ข.ใช้ทาตัวให้มีกลิ่นหอม
  ค.ใช้ถูตัวเวลาอาบน้ำ
  ง.ใช้ทาเสื้อผ้าให้มีกลิ่นหอม
2.เวลาเราแปรงฟันส่วนล่างนักเรียนคิดว่ามีวิธีแปรงอย่างไร
  ก.แปรงขึ้นทั้งด้านนอกและด้านใน
  ข.แปรงลงทั้งด้านนอกและด้านใน
  ค.แปรงขึ้นแปรงลงทั้งด้านนอกและใน
  ง.ถูกทั้งข้อ ก ข และ ค
3.นักเรียนคิดว่าฟันแท้เรานั้นมีทั้งหมดกี่ซี่
  ก.32 ซี่
  ข.35 ซี่
  ค.42 ซี่
  ง.45 ซี่
4.อวัยวะของจมูกส่วนที่เป็นโพรงและมีช่องเล็ก
  เป็นส่วนที่ต่อไปยังอวัยวะใดของร่างกาย
  ก.ตา
  ข.ปอด
  ค.หูตอนใน
  ง.หัวใจ
5.ประสาทสมองและสมองของหูส่วนใดของร่างกายเรา
  ที่ทำให้ได้ยินเสียงต่าง ๆ
  ก.หูตอนใน
  ข.เยื่อแก้วหู
  ค.ใบหู
  ง.รูหู
6.นักเรียนสังเกตหรือไม่ว่าสีดำที่อยู่ตรงกลาง
  ดวงตาของเรานั้นคืออะไร
  ก.ตาขาว
  ข.ตาแดง
  ค.ตาดำ
  ง.ตาเหลือง
7.เด็กผู้ชายที่มีมาตรฐานของส่วนสูงประมาณ 130.4 เซนติเมตร
  จะมีอายุประมาณกี่ปี
  ก.9 ปี 7 เดือน
  ข.10 ปี 7 เดือน
  ค.11 ปี 7 เดือน
  ง.12 ปี 7 เดือน
8.เด็กผู้ชายที่มีมาตรฐานของน้ำหนักประมาณ 23 กิโลกรัม
  จะมีอายุเท่าใด
  ก.9 ปี 3 เดือน
  ข.6 ปี 3 เดือน
  ค.8 ปี 3 เดือน
  ง.7 ปี 3 เดือน
9.นักเรียนคิดว่ามนุษย์เรานั้นจะมีความสูงเพิ่มขึ้น
  เมื่อมีอายุย่างเข้ากี่ปี
  ก.10-12 ปี
  ข.12-14 ปี
  ค.14-16 ปี
  ง.16-18 ปี
10.เมื่อมีอายุ 7-9 ปี เด็กในวัยนี้จะจัดอยู่ในกลุ่ม
  ของเด็กตอนใด
  ก.วัยเด็กตอนต้น
  ข.วัยเด็กตอนกลาง
  ค.วัยเด็กตอนปลาย
  ง.วัยเด็กตอนสูง


*****************************
เฉลย


1.ตอบ ค.ใช้ถูตัวเวลาอาบน้ำ
2.ตอบ ก.แปรงขึ้นทั้งด้านนอกและด้านใน
3.ตอบ ก.42 ซี่
4.ตอบ ค.หูตอนใน
5.ตอบ ก.หูตอนใน
6.ตอบ ค.ตาดำ
7.ตอบ ก.9 ปี 7 เดือน
8.ตอบ ค.8 ปี 3 เดือน
9.ตอบ ก.10-12 ปี
10.ตอบ ข.วัยเด็กตอนกลาง






Rinlaporn&Omsin

นอกเมือง...ในกรุง


บทที่ ๑๐
นอกเมือง...ในกรุง
เนื้อหา

..........นอกเมือง...ในกรุง เป็นเรื่องของเด็กชายไก่แจ้ที่อยู่จังหวัดกาฬสินธุ์ได้เข้ามาอยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มเรื่องจากไก่แจ้อยู่กับพ่อ แม่ ตา และ ยายที่หมู่บ้านเล็ก ๆ อยุ่ไกลจากตัวเมืองมาก บริเวณบ้านของไก่แจ้มีพื้นที่กว้าง พอพ้นจากตัวบ้านจะเป็นพื้นที่สวนครัว มีผักหลายชนิด เช่น พริก มะเขือ ข่า ตะไคร้ โหระพา ดอกแค ขี้เหล็ก ต่อจากนั้นก็เป็นสวนผลไม้ซึ้งมีมะม่วงน้ำดอกไม้ที่มีรสหวานอร่อย  ส่วนรั้วบ้านก็เป็นรั้วกินได้ คือปลูกกระถินเป็นแนวไว้สำหรับเก็บยอดอ่อนรับประทาน ไก่แจ้เรียกผักสวนครัว ผลไม้ และยอดกระถินริมรั้วว่า " อาหารมิตรภาพ " เพื่อนบ้านคนไหนอยากกินก็มาขอกินได้ พอถึงหน้ามะม่วง ตากับพ่อจะช่วยกันสอยลงมาแจกบ้านโน้นบ้านนี้ คนที่ได้รับแจกมะม่วงจะทำข้าวเหนียวมูนมาให้

..........ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน ไก่แจ้จะช่วยพ่อให้อาหารไก่และเก็บไข่ไก่ไว้เป็นอาหารส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะนำไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อกับข้าวที่แม่บอก โรงเรียนของไก่แจ้อยู่ในวัดท้ายหมู่บ้าน ไก่แจ้และเพื่อน ๆ จึงเดินไปโรงเรียน เดินไปคุยกันไปโดยไม่รีบร้อนและไม่ต้องคอยระวังรถที่จะชน เพราะไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่าน อากาศเย็นสบายและปลอดโปร่งทำให้สดชื่นและหายใจได้เต็มปอด เวลารับประทานอาหารกลางวัน เพื่อน ๆ เพื่อน ๆ และไก่แจ้จะนำกับข้าวของตนมาวางไว้เป็นกองกลาง นั่งล้อมวงกินข้าวด้วยกัน ทำให้ได้กินอาหารหลายรสชาติแตกต่างกันไป หลังเลิกเรียน ไก่แจ้และเพื่อน ๆ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะพากันเล่นเตะฟุตบอล บ้างก็เล่นตี่จับ กระโดเชือก วิ่งแข่ง ที่สนามหญ้าหน้าโรงเรียนเป็นการออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพดี ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ไก่แจ้เลยหัวแข็งไม่เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย ๆ

..........แล้ววันหนึ่งพ่อก็มาบอกไก่แจ้ว่า ช่วงปิดเรียนภาคปลายจะพาไก่แจ้ไปอยู่กับอาหนอดที่กรุงเทพฯ เพื่อไปเรียนเสริมทักษะวิชาศิลปะและคอมพิวเตอร์ซึ่งถูกใจไก่แจ้มาก พอไปถึงบ้านอาหนอดที่อยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งทุกบ้านแทบไม่มีบริเวณ มีกำแพงปละประตูเหล็กปิดกั้นไม่เห็นภายใน ต่างคนต่างอยู่ ต้นไม้ใหญ่ ๆ มีให้เห็นบ้างแต่เป็นต้นไม้ประเภทสวยงามมากกว่าพวกอาหารมิตรภาพอย่างแถวบ้านไก่แจ้

..........ที่บ้านอาหนอด ไก่แจ้ต้องตื่นตั้งแต่ตีหา้ครึ่งเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน อาหนอดบอกว่า ถ้าออกจากบ้านหลังหกโมงเช้ารถจะติดมาก ไก่แจ้มัวแต่กินข้าวช้าเพราะกินไม่ค่อยลง และต้องหยิบอุปกรณ์การเรียนหลายครั้งทำให้อาหนอดขับรถออกจากบ้านช้าไป ๑๕ นาที พอโผล่ออกจากหมู่บ้านจะเข้าถนนใหญ่ก็เห็นรถติดกันจนมองไม่เห็นพื้นถนน ทุกคนดูรีบร้อนเพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายกันทั้งนั้น และกว่าอาหนอดจะขับรถเลี้ยวเข้าถนนที่จะไปที่ทำงาน อาหนอดต้องคอยอยู่นานจึงมีคนใจดียอดเปิดทางให้อาหนอดขับรถแทรกเข้าไปและขับรถเลี้ยวได้

..........อาหนอดจอดรถไว้ที่ที่ทำงานแล้วพาไก่แจ้เดินไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเพื่อจะไปโรงเรียน ไก่แจ้เดินดูร้านขายของสารพัดจนเพลินจึงถูกคนเดินชนจนเซหลายครั้ง อาหนอดพาไก่แจ้เดินลงไปสถานีรถฟฟ้าใต้ดินซึ่งอยู่ลึกมาก ต้องลงทั้งบันไดเลื่อนและบันไดธรรมดา ต้องซื้อเหรียญเป็นค่าโโดยสารตามระยะทางที่ไปแล้วนำเหรียญมาแตะตรงจุดที่กำหนดเพื่อให้ประตูทางที่จะไปขึ้นรถเปิด ถ้าเดินช้าก็จะถูกประตูหนีบตัวเอา ผู้คนเต็มไปหมด ทุกคนดูเร่งรีบ ในรถไฟฟ้าใต้ดินมีที่นั่งจำกัด หลายคนต้องยืน รวมทั้งอาหนอดด้วย ไม่มีใครสละที่ให้เด็กนั่ง ไก่แจ้ต้องกอดเองอาหนอดไว้แน่นเพราะกลัวหกล้มและรู้สึกอึดอัด เหมือนไม่มีอากาศหายใจ พอถึงที่หมายต้องรีบออกจากรถ หยอดเหรียญโดยสารคืนใส่ตู้เพื่อให้ประตูทางออกเปิด แล้วรีบเดินขึ้นไปชั้นบนของสถานี ไก่แจ้เดินอย่างไม่มีแรง หน้าซีด เพราะเมารถเมาคน เลยต้องยืนพิงผนังพักสักครู่

..........อาหนอดไปส่งไก่แจ้ที่โรงเรียนและบอกไก่แจ้ว่าตอนเย็นจะมารับแล้วจึงกลับไปที่ทำงาน ตอนพักกลางวัน ไก่แจ้เริ่มรู้จักเพื่อน ๒ - ๒ คน แต่ยังไม่ได้คุยอะไรกันมาก เพราะเวลาคุยกับเขาก็คุยแต่เรื่องเกม โทรศพท์ มือถือ ละครโทรทัศน์ ไก่แจ้ไม่รู้เรื่องเลยนั่งฟังเฉย ๆ ได้แต่คิดว่าคงต้องไปหาความรู้จากอาหนอด อาหารกลางวันต่างคนต่างซื้อ ต่างคนต่างรับประทาน ไม่เหมือนเพื่อน ๆ ที่บ้านของไก่แจ้

..........พอโรงเรียนเลิกอาหนอดก็มารับกลับบ้าน โดยขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินเหมือนเดิมแล้วไปขึ้นรถอาหนอด กวาจะถึงบ้านก็เกือบทุ่ม ไก่แจ้หิวข้าวจนตาลาย โชคดีที่ย่าทำกับข้าวไว้แล้ว กินข้าวเสร็จก็อาบน้ำ เข้านอนทันทีโดยไม่ได้ยินคำถามที่ย่าถามว่า " ตกลงจะมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯไหม? ลูก มาอยู่กับย่าเลยนะ " ถ้าเพื่อนๆ เป็นไก่แจ้คิดว่า " อยู่ที่ไหน ดีกว่ากัน "





Rinlaporn&Omsin