จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

5 มีนาคม 2555

@ คำนำพระนามแสดงความเป็นเครือญาติ

>> พระวงศ์เธอ
          คำนำพระนามพระองค์เจ้าหลานเธอที่พระมารดาเป็นพระองค์เจ้า และหม่อมเจ้าที่ได้รับการสถาปนาเป็นพระองค์เจ้าในวังหลวง วังหน้า และวังหลัง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ใช้คำนำพระนามของพระองค์เจ้าตั้งที่เป็นพระราชนัดดาว่า "พระวรวงศ์เธอ" และ "พระเจ้าวรวงศ์เธอ"

>> พระเจ้าบวรวงศ์เธอ
          คำนำพระนามพระราชโอรส พระราชธิดาในสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในรัชกาลที่ ๑,๒,๓ และพระราชโอรส พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบัญญัติให้ใช้ ครั้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนคำนำพระนาม "พระเจ้าบวรวงศ์เธอ" เป็น "พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ"


>> พระบวรวงศ์เธอ
          คำนำพระนามพระโอรส พระธิดาในกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (วังหน้ารัชกาลที่ ๕) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู๋หัว ทรงบัญญัติให้ใช้ ครั้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนคำนำพระนาม "พระบวรวงศ์เธอ" เป็น "พระราชวรวงศ์เธอ"


Rinlaporn&Omsin

@ คำนำพระนามแสดงความเป็นเครือญาติ >> พระประพันธวงศ์เธอ

>> พระประพันธวงศ์เธอ
           คำนำพระนามพระโอรส พระธิดาชั้นพระองค์เจ้าในสมเด็จพระบรมราชมาจามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบัญญัติขึ้น แต่ต่อมาทรงเปลี่ยนคำนำพระนาม "พระประพันธวงศ์เธอ" เป็น "พระสัมพันธวงศ์เธอ" เมื่อครั้งทรงสถาปนาหม่อมเจ้าพรรณราย (พระธิดาในสมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์) เป็น "พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย"


Rinlaporn&Omsin

@ คำนำพระนามแสดงความเป็นเครือญาติ >> พระสัมพันธวงศ์เธอ

>> พระสัมพันธวงศ์เธอ

          คำนำพระนามพระโอรส  พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ในรัชกาลที่ ๑ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์) คำนำพระนามพระโอรส พระธิดาในพระเจ้าน้องนางเธฮในรัชกาลที่ ๑ (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนรินทรเทวี) และคำนำพระนามพระโอรส พระธิดาในกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข (วังหลังรัชกาลที่ ๑) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ ๑) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ใช้คำนำพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ" หรือ "พระเจ้าหลานเธอ"ตามพระเกียรติยศ แต่ในรัชกาลที่ ๒ และ ๓ ไม่ปรากฏว่ามีการใช้คำนำพระนามพระราชวงศ์ชั้นนี้
          ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ได้ทรงบัญญัติให้ใช้คำนำพระนามว่า "พระสัมพันธวงศ์เธอ" ซึ่งคำนำพระนามนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ทรงบัญญัติให้ใช้เป็นคำนำพระนามพระโอรส พระธิดาในสมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) )



Rinlaporn&Omsin

@ ความหมายของคำราชาศัพท์

คำราชาศัพท์ คือ  คำเฉพาะใช้สำหรับพูดกับพระเจ้าแผ่นดิน พระบรมวงศานุวงศ์ เจ้านาย และรวมถึงคำสุภาพที่นำมาใช้ให้ถุกต้องเหมาะสมตามชั้นหรือฐานะบุคคล

ที่มาของคำราชาศัพท์
          ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ โดยปวงชนชาวไทยได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตากรุณา จึงได้คิดค้นหาถ้อยคำที่ไพเราะเพื่อใช้แก่พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์

การใช้คำราชาศัพท์
          การใช้คำราชาศัพท์เป็นคำที่สามัญชนทั่วไปใช้กับพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ และคำราชาศัพท์นั้นพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์จะไม่ทรงใช้สำหรับพระองค์เอง แต่ทรงใช้ถ้อยคำธรรมดา เช่น พระหัตถ์ของฉัน ใช้ว่า มือของฉัน เป็นต้น
          ทั้งนี้ พระมหากษัตริย์ก็ทรงใช้ราชาศัพท์กับพระบรมวงศ์ ส่วนพระบรมวงศ์ก็ทรงใช้ราชาศัพท์กับพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ที่่มีพระอิสริยศักดิ์ต่างกันก็ใช้ราชาศัพท์ระหว่างกัน

บุคคลที่ใช้ราชาศัพท์
๑. พระเจ้าแผ่นดิน
๒. พระบรมวงศานุวงศ์
๓. พระภิกษุ สามเณร
๔. ขุนนาง ข้าราชการผู้ใหญ่
๕. สุภาพชนทั่วไป


Rinlaporn&Omsin