๑. ข้อใดเป็นคำนามต่างชนิดกัน
ก. โรงไฟฟ้า สถานีขนส่ง
ข. สวนลุมพินี สวนสัตว์ดุสิต
ค. สุดสาคร ผีเสื้อสมุทร
ง. หนุมาน ละครลิง
๒. คำว่า “ขัน”
ในข้อใดทำหน้าที่เป็นคำนามในประโยค
ก. คุณพ่อทำท่าตลกจนน้องขัน
ข. พลอยตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงไก่ขัน
ค. คุณยายลอยดอกมะลิในขันน้ำ
ง. ช่างซ่อมจักรยานขันน็อตที่ล้อรถจนแน่น
๓. ประโยคใดมีกริยาที่ต้องมีกรรม
ก. เกลือเป็นหนอน
ข. หมาหยอกไก่
ค. หมูไปไก่มา
ง. น้ำลดตอผุด
๔. “คุณปู่เดินออกกำลังกายทุกเช้า”
ข้อใดใช้กริยาประเภทเดียวกับข้อความข้างต้น
ก. เต่ากินผักบุ้งเป็นอาหาร
ข. ดวงอาทิตย์ส่องแสงร้อนแรง
ค. คุณแม่ปลูกผักสวนครัวไว้หลังบ้าน
ง. คุณยายบริจาคเงินสร้างศาลาวัด
๕. “คุณยายเก็บตำลึงไปขายได้ถึง ๑๐ ” คำลักษณนามที่ควรเติมในช่องว่างคือข้อใด
ก. กิ่ง
ค. กำ
ข. ต้น
ง. ช่อ
๖. ข้อใดใช้คำลักษณนามได้ถูกต้อง
ก. ดาวล้านดวง
ข. ปีศาจตัวหนึ่ง
ค. นาฬิกา ๕
สาย
ง. โรงเรียน
๓ หลัง
๗. ประโยคใดใช้คำไม่ถูกต้อง
ก. คุณพ่อดื่มกาแฟทุกเช้า
ข. หลวงพ่อบรรทมอยู่ในกุฏิ
ค. คุณครูไปนิมนต์พระที่วัด
ง. ในหลวงท่านมีเมตตาต่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน
๘. ประโยคใดใช้คำได้ถูกความหมาย
ก. ตำรวจสืบสวนผู้ต้องหาอย่างเคร่งขรึม
ข. ดอกกุหลาบส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วสวน
ค. ชาวบ้านบางระจันได้รับการเยินยอว่ามีความกล้าหาญ
ง. ผู้ที่ลักลอบค้าสิ่งเสพติดจะต้องได้รับโทษมหันต์
๙. ประโยคใดมีเนื้อความไม่สัมพันธ์กัน
ก. แม่ภูมิใจที่ลูกเป็นเด็กดี
ข. เมื่อฝนหยุดตก
ท้องฟ้าก็แจ่มใส
ค. ธิดาตื่นสายเพราะเมื่อคืนรับประทานขนมหวาน
ง. เขาเป็นคนมีอัธยาศัยดีจึงมีแต่คนรักใคร่
๑๐. ข้อความใดใช้คำได้กระชับที่สุด
ก. ทะเลที่เกาะเสม็ดไม่ปลอดภัยสำหรับการว่ายน้ำ
ข. เขาเดินด้วยเท้าระยะไกลมากกว่าจะพ้นป่า
ค. เธอรอดกลับมาพร้อมด้วยชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก
ง. นักกีฬาผู้เข้าร่วมการแข่งขันควรจะมีระเบียบวินัยและปฏิบัติตามข้อบังคับ
๑๑. ข้อใดใช้สำนวนภาษาไม่ถูกต้อง
ก. เชิดชัยและเชิงชายต่างล่วงรู้ความลับของกันและกันเหมือนไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่
ข. ตาสีชอบทำตัวเป็นกิ้งก่าได้ทองเพราะไม่ต้องการให้ผู้ใดว่าตนร่ำรวย
ค. ลัดดารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกเมื่อพบกระเป๋าเงินที่ลืมทิ้งไว้ในห้องน้ำ
ง. นักเรียนควรรีบทำการบ้านให้เสร็จอย่าปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นดินพอกหางหมู
๑๒. ข้อใดเป็นประโยคความเดียว
ก. คุณยายทำขนมไทยได้หลายชนิด
ข. พี่และน้องไปโรงเรียนด้วยกัน
ค. เขาทบทวนบทเรียนสม่ำเสมอจึงสอบได้คะแนนดี
ง. คุณพ่อรดน้ำต้นไม้ส่วนคุณแม่ทำอาหาร
ข้อ ๑๓-๑๕ ข้อใดใช้เครื่องหมายวรรคตอนได้ถูกต้อง
๑๓. ก. ว้าย? เด็กตกน้ำ
ข. ข้าวหอมมะลิไทยเป็นที่รู้จักของนาๆประเทศ
ค. การจราจรติดขัดเป็นปัญหาสำคัญของกรุงเทพฯลฯ
ง. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ตั้งอยู่บริเวณสนามหลวง
๑๔. ก. ใครไม่มาโรงเรียนวันนี้!
ข. “ไชโย” ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว
ค. ทัศนศึกษา อ่านว่า ทัด-สะ-นะ-สึก-สา
ง. คุณยายปลูกดอกไม้หลายชนิด เช่น กุหลาบ…มะลิ…จำปี
๑๕. ก. เธอเป็นใคร ฉันไม่เคยรู้จัก.
ข. เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าดังสนั่น
ค. วิชัยถือคติว่า “ตนเป็นที่พึ่งของตน”
ง. แก้วเขียนพยัญชนะไทยได้ตั้งแต่ ก
ฯ ฮ
๑๖. ข้อใดใช้อักษรย่อไม่ถูกต้อง
ก. กรุงเทพมหานคร
ใช้อักษรย่อว่า กทม.
ข. คณะรัฐมนตรี
ใช้อักษรย่อว่า ค.ร.ม.
ค. เมษายน ใช้อักษรย่อ
เม.ย.
ง. หนังสือพิมพ์
ใช้อักษรย่อว่า น.ส.พ.
๑๗. ข้อใดเป็นคำขวัญ
ก. น้ำไฟมีน้อย
ใช้สอยประหยัด
ข. ควรอ่านฉลากยาก่อนรับประทานทุกครั้ง
ค. ความพยายามอยู่ที่ไหน
ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ง. ใช้ผลิตภัณฑ์
“เสริมศรี” เป็นเศรษฐีในวันหน้า
๑๘. ข้อใดใช้ได้เหมาะสมในการกล่าวอวยพรผู้ใหญ่
ก. ขอให้คุณปู่สุขภาพแข็งแรงอายุยืนนาน
ข. ขอให้คุณย่ามีความสุขความเจริญสมปรารถนา
ค. ขอให้คุณตาโชคดีมีอำนาจวาสนาข้าทาสบริวาร
ง. ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มครองคุณยายให้ปราศจากโรคภัย
๑๙. “วันนี้เป็นวันปีใหม่ เราอายุเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปีเราจะเริ่มต้นวันใหม่ในปีนี้ให้ดีที่สุดเลย…” ข้อความนี้เป็นลักษณะการเขียนประเภทใด
ก. โอวาท
ข. คำอวยพร
ค. จดหมาย
ง.
บันทึกประจำวัน
๒๐. “รสชาติ สีสัน สนิทสนม ” ข้อใดเหมาะสมที่จะใช้เติมคำข้างต้นให้ได้
ความหมายถูกต้อง
ก. กลมกลืน กลมเกลียว
กลมกล่อม
ข. กลมกล่อม
กลมกลืน กลมเกลียว
ค. กล้ำกลืน
เกลี้ยงเกลา เกลียวกลม
ง. กล้อมแกล้ม
กลมกลืน กลมเกลียว
๒๑. “โปรด” ในข้อใดแสดงการขอร้อง
ก. โฉมฉายเป็นคนโปรดของเจ้านาย
ข. เธอมาช่วยฉันเหมือนพระมาโปรดเลย
ค. โปรดประทานความเมตตาแก่ข้าบ้าง
ง. ของโปรดของฉันคือข้าวเหนียวมะม่วง
๒๒. ข้อความใดเหมาะสมที่จะเป็นคำอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่
ก. ขอให้ได้ชัยชนะดั่งตั้งใจ
ข. ขอให้สุขภาพแข็งแรงดังเดิม
ค. ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
ง. ขอให้มีความสุข
สมปรารถนา
๒๓. “วัดพระศรีรัตนศาสดารามาร้างในสมัยรัชกาลที่ ๑ แห้งกรุงรัตนโกสินทร์”
ข้อใดควรเป็นคำถามของประโยคคำตอบข้างต้น
ก. วัดพระศรีรัตนศาสดารามตั้งอยู่ที่ใด
ข. ใครเป็นผู้สร้างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ค. วัดพระศรีรัตนศาสดารามสร้างในสมัยใด
ง. วันพระศรีรัตนศาสดารามมีอีกชื่อหนึ่งว่าอะไร
๒๔. ฉันรู้สึกเหงาวังเวง เหมือนชีวิตเหลืออยู่เพียงลำพังในโลกไม่มีนกบินให้เห็นบนท้องฟ้าต้นไม้ก็ไม่พลิ้วไหวมีแต่สายลมที่พัดผ่านอย่างแผ่วเบา ข้อความข้างต้นมีลักษณะอย่างไร
ก. ให้ข้อคิด
ข. รำพึงรำพัน
ค. ชี้แจงเหตุผล
ง. ขอความเห็นใจ
๒๕. ข้อใดเรียงลำดับข้อความได้ถูกต้อง
๑. วันรุ่งขึ้นควรตื่นแต่เช้า
ทำใจให้เป็นสมาธิ
๒. ควรนอนให้เต็มที่และไม่ควรนอนดึกจนเกินไป
๓. ในคืนก่อนสอบนั้นอย่าวิตกกังวล
๔. เพราะจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
ก. ๑, ๒, ๓,
๔
ข. ๒,
๓, ๑, ๔
ค. ๓,
๑, ๒, ๔
ง. ๓,
๒, ๔, ๑
๒๖. ใจความสำคัญของข้อความจากข้อ ๒๕ กล่าวถึงสิ่งใด
ก. การเรียน
ข. การสอบ
ค. การนอนดึก
ง. การพักผ่อนก่อนสอบ
๒๗. ข้อใดเรียงลำดับคำประพันธ์ต่อไปนี้ได้ถูกต้อง
๑. ถึงลูกยางห่างต้นหล่นกระเด็น
๒. จะดูนางดูแม่เหมือนแลเห็น
๓. ก็จะเป็นเช่นเหล่าตามเผ่าพันธุ์
๔. จะดูวัวชั่วดีก็ที่หาง
ก. ๑,
๓, ๒, ๔
ข. ๒,
๓, ๑, ๔
ค. ๔,
๒, ๑, ๓
ง. ๔,
๑, ๒, ๓
๒๘. คำประพันธ์ข้างต้นเป็นคำประพันธ์ประเภทใด
ก. กลอนหก
ข. กลอนสุภาพ
ค. โคลงสี่สุภาพ
ง. กาพย์ยานี
๑๑
๒๙. สำนวนใดสอดคล้องกับคำประพันธ์ในข้อ
๒๗
ก. ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
ข. รักวัวให้ผูก
รักลูกให้ตี
ค. รักดีหามจั่ว
รักชั่วหามเสา
ง. ดูวัวให้ดูหาง
ดูนางให้ดูแม่
อ่านคำประพันธ์นี้แล้วตอบคำถามข้อ
๓๐-๓๒
ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร
มายาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ
โฉดฉลาดเพราะคำขาน ควรทราบ
หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้ายแสลงดิน
๓๐. คำประพันธ์ข้างต้นเป็นคำประพันธ์ประเภทใด
ก. กลอนสุภาพ
ข. โคลงสี่สุภาพ
ค. กาพย์ยานี
๑๑
ง. กาพย์ฉบัง
๓๑. “โฉดฉลาดเพราะคำขาน
ควรทราบ” โฉด มี
ความหมายตรงกับข้อใด
ก. ชั่วร้าย
ข. โหดเหี้ยม
ค. โง่เขลา
ง. สติปัญญา
๓๒. ใจความสำคัญของคำประพันธ์นี้สรุปได้ตรงกับสำนวนใด
ก. เชื้อไม่ทิ้งแถว
ข. เด็ดบัวไม่ไว้ใย
ค. น้ำลึกหยั่งได้
น้ำใจหยั่งยาก
ง. สำเนียงบอกภาษา กิริยาบอกสกุล
อ่านข้อความต่อไปนี้
แล้วตอบคำถามข้อ ๓๓ – ๓๔.
พระยาตากเห็นว่ากรุงศรีอยุธยาคงจะเสียแก่พม่าเป็นแน่
เพราะพม่ายกทัพมา มากมายล้มกรุงไว้จึงได้ชวนคนไทยประมาณ ๕๐๐
คน ตีฝ่าวงล้อมของพม่าหนีออกมาก่อน และพากันไปตั้งตัวรวบรวมคนไทยได้อีกจำนวนมากกลับมากู้เอกราชได้สำเร็จ หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าเพียง ๗
เดือน
๓๓. ใจความสำคัญของข้อความข้างต้นคืออะไร
ก. สงครามระหว่างไทยกับพม่า
ข.
การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒
ค. การตั้งชุมนุมของพระยาตาก
ง.
การกู้เอกราชของพระยาตาก
๓๔. ข้อใดเรียงลำดับเหตุการณ์ได้ถูกต้อง
๑. พระยาตากกู้เอกราชได้สำเร็จ
๒. พม่ายกทัพมาล้อมกรุง
๓. กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า
๔. พระยาตากตีฝ่าวงล้อมของพม่า
ก. ๑, ๓,
๒, ๔
ข. ๒,
๓, ๔, ๑
ค. ๒, ๔,
๓, ๑
ง. ๔,
๒, ๓, ๑
๓๕. หากพระยาตากไม่ตีฝ่าวงล้อมของพม่าออกมาก่อนที่กรุงจะแตก เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร
ก. กรุงศรีอยุธยาจะไม่เสียแก่พม่า
ข. พระยาตากจะได้พรรคพวกมากขึ้นกว่าเดิม
ค. พม่าจะต้องล้อมกรุงศรีอยุธยาต่อไปอีกเป็นเวลานาน
ง. พระยาตากไม่สามารถกู้เอกราชได้ในเวลาอันรวดเร็ว
Rinlaporn&Omsin
อ่านคำประพันธ์แล้วตอบคำถามข้อ ๓๖-๓๘
เกิดเป็นชายชาวสยามตามวิสัย หนังสือไทยก็ไม่รู้ดูบัดสี ต้องอับอายขายหน้าทั้งตาปีถึงผู้ดีก็คงด้อยถอยตระกูล จะต่ำเตี้ยเสียชื่อว่าโฉดช้า จะชักพายศลาภให้สาบสูญจะขายหน้าญาติวงศ์พงศ์ประยูร จะเพิ่มพูนติฉินคำนินทา
๓๖. ใจความสำคัญของคำประพันธ์ข้างต้นคือข้อใด
ก. รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา
ข. รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
ค. มีปัญญาประดุจดังมีอาวุธ
ง. ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
๓๗. “ต้องอับอายขายหน้าทั้งตาปี”
ข้อใดคือ ความหมายของคำว่า “ตาปี”
ก. หลายปี
ข. เป็นปีๆ
ค. ตลอดปี
ง. ตลอดไป
๓๘. การไม่รู้หนังสือก่อให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงที่สุดอย่างไร
ก. ถูกติฉินนินทา
ข. เป็นที่อับอายขายหน้า
ค. ทำลายชื่อเสียงตัวเอง
ง. เสียชื่อ เสียวงศ์ตระกูล
อ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ
๓๙-๔๐
โลกมนุษย์ในปัจจุบันนี้ อาจเป็นสวรรค์หรือนรกสำหรับคนทุกคนได้ เราจะเห็นได้ว่า
คนทุกคนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ต่างกัน บางคนมีความสุข บางคนมีความทุกข์ คนที่มีความสุข
มีความเป็นอยู่ที่ดีก็คือโลกสวรรค์ของเขา คนที่มีความทุกข์มีแต่ ความเดือดร้อน จิตใจไม่เป็นสุข
นั้นก็คือโลกนรกของเขา ทั้งนี้เกิดจากผลของการกระทำของแต่ละบุคคล
๓๙. ข้อความข้างต้นจัดเป็นประเภทใด
ก. ข้อคิด
ข. คำสอน
ค. คำเตือน
ง. ข้อเท็จจริง
๔๐. ข้อใดคือใจความสำคัญของข้อความข้างต้น
ก. ทำดีได้ดี
ทำชั่วได้ชั่ว
ข. สวรรค์อยู่ในอก
นรกอยู่ในใจ
ค. ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
ง. กงเกวียน
กำเกวียน
Rinlaporn&Omsin