บทที่ ๓
พลังงานคือชีวิต
เนื้อเรื่องย่อ
..........พลังงานคือชีวิต เป็นเรื่องที่ครูเล่าเรื่องพลังงานให้นักเรียนฟัง ซึ่งสืบเนื่องมาจาก บ้านบางบ้าน ลูก ๆ นั่งงงเพราะพ่อกับแม่ดูเดือดร้อนที่แม่แค้าขายของแพง ลูกค้าบ่นและต่อรองราคา ที่โรงเรียน หน้าตาของเด็ก ๆ ดูเศร้าหมองเพราะพ่อแม่ไม่พาไปเที่ยวตามที่สัญญาไว้ เด็กบางคนกินอาหารไม่อิ่ม เพราะแม่ค้าตักอาหารให้น้อย บางบ้านเด็กบอกว่าไฟไม่สว่างเหมือนเดิม เพราะพ่อแม่ไม่ให้เปิดไฟมากเด็กบางคนไม่ได้อาบน้ำ เพราะสิ้นเปลืองน้ำ เดี๋ยวจะไม่มีน้ำจะอาบ
..........ดังนั้นครูจึงเรียกเด็กๆ มานั่งรวมกันแล้วเล่าเรื่องให้เด็กฟังว่า ขณะนี้พลังงานหลักของการคมนาคม การขนส่ง และการผลิตกระแสไฟฟ้าคือ น้ำมันดิบ ั่วโลกกำลังขาดแคลนและมีราคาสูง จึงมีผลกระทบต่อการคมนาคม การขนส่ง การผลิตกระแสไฟฟ้้า การผลิตน้ำประปา การเดินเรือ การประมง เป็นต้น
..........ดังนั้นนักเรียนไม่ควรโกรธหรือเสียใจที่ไม่ได้ไปเที่ยว ซื้อของแพงหรือกินอาหารไม่อิ่ม แต่เราควรมาหาวิธีการใช้พลังงานให้น้อยลง เพื่อเป็นการประหยัด และเราจะได้มีพลังงานใช้ไปตลอด และเด็ก ๆ ได้ช่วยกันคิดวิธีการประหยัดพลังงาน โดยบางคนบอกว่า ถ้ายังมีแสงสว่างพอเห็นก็ไม่ควรเปิดไฟ บางคนบอกว่าไฟดวงไหนไม่ใช้ต้องรีบปิด บางคนบอกว่าอย่าเปิดน้ำทิ้งไว้ตอนถูสบู่หรือแปรงฟัน ขึ้นรถเมล์หรือเดินบ้างไม่ต้องนั่งรถส่วนตัวตลอด ปิดพัดลม ปิดเครื่องทำความเย็นเมื่อไม่ใช้ ขึ้นอาคารชั้นเดียวหรือสองชั้นควรเดินขึ้น ไม่ต้องใช้ลิฟต์ ขี่จักรยานไปในระยะทางใกล้ ๆ เวลาต้มน้ำ เมื่อน้ำเดือดแล้วต้องปิดแก๊ส อย่าเปิดปิดตู้เย็นบ่อย รีดผ้าในคราวเดียวให้มาก อย่ารีดบ่อยๆ
..........เมื่อนักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการประหยัดพลังงานแล้วก็ช่วยกันสรุปและเขียนบนกระดานไว้ว่า พลังงานคือชีวิตฯ ถ้าเรามีวินัยในการใช้โดยคิดให้รอบคอบก่อนใช้ทุกครั้ง เราจะมีพลังใช้อีกนาน และแต่่งคำขวัญ เช่น ประหยัดไฟคนละนิด ช่วยเศรษฐกิจของบ้านเมืองง ฯลฯ แล้วนำไปติดไว้หน้าห้องเรียน
..........ครูพูดว่า "เออหนอ...แค่น้ำมันขึ้นราคาอย่างเดียวกระทบไปถึงน้ำ ไฟฟ้า แก๊สหุงต้ม และการดำเนินชีวิตของทุก ๆ คนเลยนะนี่"
อ.กัลย์ชลิตา ศิวารมณ์
Rinlaporn&Omsin
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับทุกข้อคิดเห็น